Last updated: 20 ก.ค. 2562 | 1444 จำนวนผู้เข้าชม |
ฮึดสู้เมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน
การดูแลผู้ป่วย
โดยปกติคนไทยเป็นชาติที่ชอบทานของหวาน ๆ เป็นทุนเดิม โดยดูจากลักษณะพื้นฐานของอาหารเรียกได้ว่าอร่อยสุด ๆ แต่น้ำตาลก็มากสุด ๆ เช่นเดียวกัน
วันนี้อยากจะมาพูดถึงโรคเบาหวาน จริง ๆ เริ่มเป็นภัยใกล้ตัวมากขึ้นและทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาอย่างมากมาย เลยจะมาขอเล่าว่าอาการเบื้องต้นของคนเป็นเบาหวานว่าเป็นอย่างไร ใครมีอาการประมาณนี้ รีบไปหาหมอให้ไวเลยนาจา
เบาหวานเนี่ยมันเป็นโรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ใช้ในการนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ คนที่เป็นเบาหวาน คือ คนที่เซลล์ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน จนต้องผลิตอินซูลินจากตับอ่อนมากขึ้น ๆ จนถึงที่สุด ตับอ่อนก็ผลิตไม่ไหว แล้วร่างกายก็เกิดภาวะขาดอินซูลิน อาการของโรคจะเกิดจากเรื่องน้ำตาลในเลือดที่สูงผิดปรกติ ทำให้เส้นเลือด และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเริ่มชำรุด หากยังไม่รักษา ปล่อยผ่านไปไม่กี่ปี เส้นเลือดทั่วร่างกายก็จะพังพินาศ นำไปสู่โรค ไตวาย เส้นเลือดในสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด แล้วก็ตายในที่สุด
เสริมเพิ่มเติมโรคเบาหวานที่น่ากลัวอีกอย่าง คือ พอเป็นนาน ๆ แล้ว หากไม่รักษาหรือคุมน้ำตาลได้ไม่ดี เส้นเลือดตามร่างกายจะมีปัญหา และเกิดพวกแผลอักเสบติดเชื้อตามแขนขาได้ง่าย ถ้าลามหนัก ๆ ก็ถึงขั้นตัดนิ้ว ตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต ส่วนมากหมอจะเลือกใช้วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้าย
รู้หรือไม่ว่า สาเหตุการเสียชีวิตสำคัญอันดับ 1 ของผู้ป่วยเบาหวานเกิดจากโรคหัวใจและหลอดเลือด เลยล่ะ ซึ่งเบาหวานนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดหัวใจหรือสมองตีบ หรือ ตัน หรือ แตก หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย และนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้ป่วยเบาหวาน ปัญหามันอยู่ที่ว่า "มันไม่ค่อยมีอาการให้เห็นเหมือนพวกแผลหายช้า หรือไตวาย" แต่พอมาทัก ทีนี่อาจตายหรือพิการเลยทีเดียว เลยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลหัวใจตัวเองด้วย ต้องถามแพทย์และปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ "อย่าเบาใจ"
ถ้าเก็บอวัยวะนั้นไว้ไม่อยู่จริง ๆ ถ้ายังพอไหว หมอจะมีหลายวิธีในการเก็บอวัยวะไว้ เช่น ตัดเนื้อตายออก เหลือแต่เนื้อส่วนดีเอาไว้ แล้วทำแผลดี ๆ บำรุงโภชนาการเยอะ ๆ คุมเบาหวานให้อยู่
หรือใช้พวก Hyperbaric chamber ช่วยให้แผลหายไวขึ้นไรงี้แต่ถ้าเป็นหนักถึงขั้นนั้นแล้ว ต่อให้รักษายังไงก็ช่วยให้ฟื้นฟูได้ไม่มากนัก เพราะเส้นเลือดเสียหายไปมากแล้ว ได้แค่ประคองไว้ไม่ให้ทรุดหนักไปกว่าเดิม
แต่ถ้ารู้ว่าเป็นเบาหวานแต่เนิ่น ๆ แล้วรักษากันตั้งแต่ตอนนั้น อันนั้นโอเค เพราะเส้นเลือดทั่วร่างกายยังไม่เสียหาย ยังใช้การได้อยู่ ดังนั้นใครที่เป็นเบาหวานอย่าเบาใจ อย่ารอให้เป็นหนักแล้วค่อยดูแลตัวเอง เพราะมันอาจสายเกินไปแล้ว
คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องน้ำหนักและเบาหวาน
โรคอ้วน กำลังเป็นปัญหาในเมืองไทย (เพราะมันก่อให้เกิดหลายโรครวมถึงโรคเบาหวาน) อาหารการกินมันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ทุกวันนี้มีทั้งอาหารรสหวานจัด มันจัด มีขนมกรุบกรอบ มีน้ำหวาน ๆ ขายเต็มไปหมดทำให้สถิติของคนอ้วนมากขึ้น คนที่เป็นเบาหวานก็มากขึ้นตามไปด้วย
ผู้ป่วยเป็นเบาหวานเดี๋ยวนี้ก็อายุน้อยลงเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน กลุ่มเด็กที่เป็นเบาหวานจะมีแค่คนที่เป็นเบาหวานแต่กำเนิด คือ เป็นเบาหวานจากพันธุกรรม เนื่องจากตับอ่อนมีปัญหา ต่างจากเบาหวานในผู้ใหญ่ ซึ่งเกิดจากร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินน้อย ทำให้เกิดการดื้ออิลซูลิน ร่างกายเลยต้องหลั่งอินซูลินออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตับอ่อนไม่ทำงาน
แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ คนที่เป็นเบาหวานในกลุ่มที่สอง (เบาหวานในผู้ใหญ่) อายุเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ เป็นเพราะทุกวันนี้เด็กมีแนวโน้มอ้วนเพิ่มขึ้น ตรงนี้มันต้องแก้ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหารให้เหมาะสม
จากเดิมตัวจ่าพิชิตเองก็เคยประสบปัญหาโรคอ้วน (อ้วนกว่านี้มากๆ สมัยอดีตเกือบ 100 กิโล) แต่ไม่ได้แล้วชีวิตของเรา เราต้องดูแล อันนี้จากประสบการณ์ตรงเลย
" ตัวจ่าก็หันมาออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส ตอนนี้ไขมันลดไป 10 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดให้เหลือประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้อยู่ที่ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ จากตอนแรกที่มีอยู่มี 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ยิ่งไขมันเราเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเรามีมวลกล้ามเนื้อมาก มันก็จะช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ ให้กับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นความดัน หรือเบาหวาน ที่สำคัญคือต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และลดปริมาณไขมันลงให้ได้ "
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ยุคนี้มีหลายวิธีที่เขากำลังฮิตๆกัน ไม่ว่าจะ คีโตเอย IF เอย หรืออื่นๆอีกสารพัด บางคนที่เป็นโรคเรื้อรังเช่นเบาหวานความดันและสนใจวิธีกินพวกนี้ ถ้าจะลองทำ อย่าเพิ่งไปหาข้อมูลในเน็ทแล้วลองผิดลองถูกกันเอง ควรปรึกษานักโภชนาการและหมอที่รักษาอยู่ ว่าเรากินได้มั้ย ถ้ากินควรคุมยังไง เพราะมันมีกรณีที่คนเป็นโรคเบาหวานไปกินวิธีการแบบนี้แล้วสภาพร่างกายไม่พร้อมจนป่วยเข้าโรงพยาบาลไปเลย
ส่วนตัวจ่าก็ไม่ได้กินวิธีแบบนั้น กินแบบธรรมดา ๆ นี่แหละ กินแบบถูกสัดส่วนโภชนาการธรรมด๊าธรรมดา แต่ก็คุมน้ำตาลในเลือดได้ เอาเป็นว่า จะยังไงก็ได้ ขอให้เลือกวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกายของเราเป็นดีสุด
เนื้อหาโดย : Drama-addict
27 มี.ค. 2566
27 มี.ค. 2566
29 มี.ค. 2566